โอนิซูกะ ไทเกอร์

โอนิซูกะ ไทเกอร์ คือบริษัทผลิตรองเท้าที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีประวัติที่สามารถย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยเริ่มก่อตั้งบริษัท โอนิซูกะ จำกัด ในปี ค.ศ. 1949 โดยนายทหารผ่านศึกอายุเพียง 32 ปี ชื่อคุณ คิฮาชิโร โอนิซูกะ ผู้ก่อตั้งบริษัทนี้ขึ้นพร้อมความหวังที่จะฟื้นฟูความรู้สึกของเหล่าวัยรุ่นในชาติหลังสงครามโลก ผ่านการกีฬาผลิตภัณฑ์แรกของโอนิซูกะ ไทเกอร์ คือรองเท้ากีฬาบาสเก็ตบอลที่มีรูปแบบคล้ายรองเท้าฟางสานโบราณ ซึ่งรูปแบบดีไซน์นี้ได้ถูกต่อต้านและไม่เป็นที่ยอมรับจากหลายฝ่ายและทำให้คุณโอนิซูกะต้องกลับไปสู่กระบวนการออกแบบอีกครั้งเพื่อให้รูปแบบของรองเท้าของเขาสามารถตอบสนองการใช้งานที่สามารถให้นักกีฬาใช้งานได้อย่างคล่องตัวในการออกตัวและหยุดการเคลื่อนไหวในสนามกีฬาระหว่างการแข่งขัน โดยการเสริมรอยนูนและเพิ่มช่องว่างไว้ใต้พื้นรองเท้าบาสเก็ตบอล จากดีไซน์ที่คุณโอนิซูกะออกแบบใหม่นี้สามารถทำให้รองเท้าของเขามีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นในการใช้งาน และทำให้ในปี ค.ศ. 1955 บริษัทผลิตรองเท้าของเขามียอดการค้าที่สูงขึ้นและสามารถขยายสาขาได้สูงถึง 500 สาขาทั่วเกาะญี่ปุ่นโอนิซูกะไทเกอร์ ได้ร่วมทำงานกับนักวิ่งมาราธอนที่ชื่อ โตรู ทีระซอล ในปี ค.ศ. 1953 เพื่อที่จะพัฒนารองเท้าที่ใช้ใส่ในการวิ่งระยะไกลซึ่งจะช่วยนักวิ่งลดการเกิดแผลพุพอง นักวิ่งในตำนานของเอธิโอเปียที่ชื่อ อะบีบี้ บีกิล่า เริ่มสวมใส่รองเท้าโอนิซูกะ ไทเกอร์ ในปี ค.ศ. 1957 ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติการเป็นนักวิ่งมืออาชีพที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยใส่รองเท้าในการวิ่งมาก่อนเลย โดยได้รับการชักชวนและสร้างความเชื่อมั่นจากนายโอนิซูกะ ว่าจะทำให้การวิ่งของเขามีประสิทธิภาพที่สูงกว่าการวิ่งเท้าเปล่าหลายเท่าตัวในช่วงปลายปี ค.ศ. 1950 ที่มหาวิทยาลัยโอระกอน มีนักวิ่งระยะกลางชื่อนาย ฟิลิป ไนค์ โดยผู้ฝึกสอนที่ชื่อ บิล โบวาแมน ผู้ที่เป็นหนึ่งในผู้ฝึกสอนระดับต้นๆ ของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยผู้ฝึกสอนโบวาแมนนี้เป็นผู้ที่เป็นที่รู้จักในเรื่องการทดสอบออกแบบรองเท้าที่ใช้ในการวิ่งรูปแบบต่างๆ ที่จะทำให้รองเท้าที่ใช้ใส่วิ่งนั้นมีน้ำหนักที่เบาและรองรับแรงกระแทกได้มากกว่า หลังจากที่ได้รับการศึกษาที่มหาวิทยาลัยโอรากอน นายไนค์ได้เข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัย สแตนฟอร์ด และได้เขียนบทความในวิยานิพนธ์ระหว่างการศึกษาปริญญาโทสาขา บริหารจัดการธุรกิจ ในหัวข้อเรื่อง การตลาดของธุรกิจรองเท้ากีฬา ซึ่งหลังจากจบการศึกษา ไนค์ได้เดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นและได้เข้าติดต่อกับทางบริษัท โอนิซูกะ ไทเกอร์ จำกัด เพื่อชักชวนและแสดงให้เห็นถึงโอกาสทางธุรกิจของตลาดรองเท้ากีฬาโอนิซูกะในประเทศสหรัฐอเมริกา และในปี ค.ศ. 1963 ไนค์ได้รับการส่งสินค้าเที่ยวแรกของรองเท้าโอนิซูกะไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา และต่อมาไนค์และ โบวาแมนได้ร่วมลงทุนเป็นจำนวนเงินคนละ 500 เหรียญสหรัฐในการก่อตั้งร้าน บรูริบบอนสปอร์ตขึ้นในปี ค.ศ. 1964 โอนิซูกะ ได้จดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหุ้นของโกเบ และเข้าตลาดหุ้นของโอซาก้าและโตเกียวในลำดับต่อมา ลายเส้นที่เรียกขานกันในชื่อ เอซิคน์ ได้มีการริเริ่มใช้ในการออกแบบครั้งแรกในปี ค.ศ. 1966 ระหว่างการแข่งขัน คัดเลือก พรีโอลิมปิก ซึ่งเป็นการแข่งขันเกมกีฬาโอลิมปิกที่ประเทศ แม็กซิโกในปี ค.ศ. 1968 ลิมเบอร์เป็นสินค้ารุ่นแรกที่ได้ใส่รูปแบบการออกแบบโดยใช้ลายเส้น เอซิคน์ บนด้านข้างของรองเท้าในบริเวณช่วงบนของสินค้า เส้นสายเหล่านี้ได้กลายมาเป็นการออกแบบที่ได้รับความนิยมและเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญบนรองของโอนิซูกะไทเกอร์ ที่ใช้ชื่อว่า แม็กซิโก 66 ในเวลาต่อมาจวบจนปัจจุบันในปี ค.ศ. 1968 บรูริบบอน สปอร์ต ได้เริ่มนำเข้าสินค้าในสายการผลิต ลิมเบอร์ เข้าสู่ตลาดประเทศสหรัฐอเมริกาเริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ. 1970 เป็นต้นมา โอนิซูกะ ไทเกอร์ ได้เริ่มนำเสนอสิ่งที่เรียกว่า ฟาบรี ที่ย่อมาจากคำว่า ฟาสเบรก ซึ่งเป็นท่าเคลื่อนไหวของกีฬาบาสเก็ตบอล ทีมกีฬาของประเมทศญี่ปุ่นได้สวมใส่รองเท้าที่มีดีไซน์ ฟาบรี นี้ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ในปี ค.ศ. 1972 ที่มูนิค ซึ่งทีมญี่ปุ่นได้อันดับที่ 14 ในการแข่งขันในปีนั้น ผู้ชนะเลิศในการแข่งขันประเภทกรีฑาที่วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นอันดับหนึ่งในรุ่น 5,000 และ 10,000 เมตร ที่ชื่อ แลสซี่ วีเรน โดยได้สวมใส่รองเท้าของโอนิซูกะ ไทเกอร์ ระหว่างการแข่งขันทั้งสองประเภทที่กล่าวมา ในปี ค.ศ. 1972 เจเล็งค์ และ โอนิซูกะ ได้รวมพลังของทั้งคู่ในด้านการเงินและตำแหน่งทางการตลาดของธุรกิจผลิตภัณฑ์กีฬาเข้าด้วยกัน และสร้างสำนักงานขายภูมิภาคขึ้นใกล้จังหวัด ฮอกไกโดเพื่อรองรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกภาคฤดูหนาวที่ ซับโปโร ซึ่งต่อมาได้ควบรวม 3 บริษัทเข้าด้วยกันและก่อตั้งเป็นบริษัท เอซิคน์ ในปัจจุบันบริษัทดังกล่าวยังคงใช้ชื่อการค้าเดิมในการจำหน่ายรองเท้าให้กับผู้ค้าต่างๆทั่วทุกภูมิภาคและทั่วโลก ชื่อ เอซิคน์ นี้เป็นคำย่อมาจากคำว่า “เอนิม่า ซาน่า อิน คอลโปเร ซาโน่” ที่แปลว่า “หัวใจและวิญญาณที่แข็งแกร่งในร่างที่แข็งแรง” ซึ่งเป็นการดัดแปลงมาจากคำพังเพยโบราณใน จูวีนาล และที่อื่นๆ Mens sana in corpore sano ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้ให้ความสนใจในการแปลความหมายและชื่อย่อที่ผสมผสานตัวอักษรของชื่อเต็มเหล่านั้น